ประวัติลิเวอร์พูล ประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล การก่อตั้งของสโมสรลิเวอร์พูล

ประวัติลิเวอร์พูล ประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล ประวัติของการก่อตั้งสโมสร และยุคสมัยยิ่งใหญ่ของสโมสรลิเวอร์พูล
ประวัติลิเวอร์พูล ประวัติศาสตร์สโมสร ลิเวอร์พูล เรื่องราวการก่อตั้ง ประวัติการก่อตั้ง ของสโมสร ฟุตบอลลิเวอร์พูล สโมสร ฟุตบอลแชมป์ พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด ของฟุตบอลลีกสูงสุด ของประเทศอังกฤษ
เรื่องราวน่าสนใจต่างๆ รวมถึงประวัติการก่อตั้ง ของสโมสร ฟุตบอลลิเวอร์พูลว่า มีประวัติ ความเป็นมา อย่างไร ลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกล่าสุด ของสโมสร ฟุตบอลลิเวอร์พูล ว่าการจะก่อตั้ง กับประวัติศาสตร์ ของสโมสรที่ แฟนบอลอยากรู้
โดยสโมสร ลิเวอร์พูลนั้น ได้ถูกก่อตั้ง ขึ้นวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1892 โดย John Houlding ซึ่งนักธุรกิจท้องถิ่น และว่าที่ นายกเทศมนตรี เมืองลิเวอร์พูล เขาเริ่มจาก การเช่าพื้นที่ บริเวณถนนแอนฟิลด์ ของเมืองลิเวอร์พูล
เพื่อสร้างสนามฟุตบอล และได้ปล่อย ให้ทางสโมสร เอฟเวอร์ตันเช่าในปีค.ศ. 1884 จนกระทั่ง เอฟเวอร์ตันเข้าเป็น สมาชิกฟุตบอลลีก ของประเทศอังกฤษ และไม่ต่อสัญญาเช่า อีกในปีค.ศ. 1892 หนังออนไลน์ล่าสุด
เนื่องจากเขา ต้องการขึ้นค่า เช่าสนามจาก 100 ปอนด์ เป็น 250 ปอนด์ต่อปี และพยายาม จะเข้าบริหารงาน ของสโมสร ถ้วยแชมป์ ลิเวอร์พูล ทางเอฟเวอตัน จึงตัดสินใจย้ายไปใช้สนามอีกฝาก ของสวนสาธารณะ สแตนลี่ย์พาร์ค
และใช้ชื่อสนามว่า กูดิสัน พาร์ค มาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อสนามไม่ได้ ใช้ประโยชน์ John Houlding จึงจัดตั้งทีมฟุตบอล ของเขาขึ้นมาเอง โดยให้เพื่อนสนิทอย่าง John McKenna มาเป็นประธานสโมสร และตั้งชื่อทีมว่า ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับอย่างในปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมาและเร่องราวที่น่าสนใจของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
สโมสรลิเวอร์พูล ถูกก่อตั้งในปี ค.ศ. 1892 และได้เข้าร่วม แข่งขันฟุตบอลลีก ในปีต่อมา ลิเวอร์พูลใช้ สนามแอนฟีลด์ ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ ของสโมสรนั้น คือช่วง คศ. 1970 ถึงคศ. 1980
เมื่อบิลล์ แชงคลี, บ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกน และ เคนนี แดลกลีช พาทีมชนะ เลิศลีกสูงสุด 11 สมัยและยูโรเปียนคัพ 4 ใบ ประวัติแมนยู ต่อมาลิเวอร์พูล ชนะเลิศ การแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกอีก 2 สมัย ภายใต้การคุมทีม ของราฟาเอล เบนิเตซ
และเจอร์เกิน คล็อปป์ ตามลำดับ ซึ่งคล็อปป์ สามารถนำทีม ชนะเลิศลีกสูงสุด ในฤดูกาล 2019–20 นับเป็น การชนะเลิศ ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 และสมัยแรก ของยุคพรีเมียร์ลีก โดยเป็นการชนะเลิศ ลีกสูงสุดครั้งแรก ในรอบ 30 ปี
ใน ค.ศ. 2019 ลิเวอร์พูลเป็น สโมสรฟุตบอล ที่ทำเงินมากที่สุด ในโลกด้วย รายได้ประจำปี 604 ล้านยูโร และเป็นสโมสร ฟุตบอลที่มี มูลค่ามากที่สุด ในโลกอันดับที่ 8 ด้วยมูลค่า 2.183 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ลิเวอร์พูลวันนี้
ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่ง ในสโมสร ที่มีผู้สนับสนุน มากที่สุดในโลก และมีสโมสร คู่แข่งซึ่ง แข่งขันด้วยกัน มาอย่างยาวนาน นักเตะลิเวอร์พูล ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูลใช้ เสื้อสีแดงและ กางเกงขาสั้นสีขาว เป็นชุดแข่งขัน มาตั้งแต่ ค.ศ. 1896
ก่อนจะเปลี่ยน เป็นสีแดงเต็มตัว เมื่อเล่นเป็น ทีมเหย้าตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา ฉายาใน ภาษาอังกฤษ ของลิเวอร์พูลคือ “เดอะเรดส์” (The Reds) ส่วนฉายาที่ชาวไทยนิยมเรียกคือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
ประวัติลิเวอร์พูล ประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล กับเรื่องราวการเติมโตขึ้นของสโมสรลิเวอร์พูล
หลังจากก่อตั้ง สโมสรลิเวอร์พูล ขึ้นมาได้ไม่นาน สโมสรลิเวอร์พูลก็โชว์ผลงาน ได้อย่างยอดเยี่ยม มาโดยตลอด โดยประเดิม สนามนัดแรกด้วย โดยลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 22 นัด ชนะถึง 17 นัด และได้แชมป์ไปครอง
ส่งผลให้ทางสโมสรสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีก โดยให้ลงเล่นในดีวิชั่น 2 ก่อน ในฤดูกาล 1893-1894 ซึ่งสโมสรสามารถเก็บชัยชนะได้แบบ 100% (ทั้งหมด 28 นัด) แต่การคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ในตอนนั้นยังไม่ได้เลื่อนชั้นโดยทันที
ต้องไปแข่งนัดชิงดำกับทีมอันดับสองก่อน โดยทีมอันดับสองในขณะนั้นคือ ทีมนิวตัน ฮีธ หรือก็คือทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน ซึ่งลิเวอร์พูลก็เอาชนะไปได้ 2-0 และได้เลื่อนขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ได้ในที่สุด ทั้งนี้สโมสรได้เลือกสัญลักษณ์เป็นนกลิเวอร์เบิร์ด
ซึ่งเป็นนกแถบทะเลไอริช บริเวญแม่น้ำเมอร์ซี่ โดยที่ปากนกนั้นคาบใบไม้ไว้ ในช่วงศตวรรษที่ 20-50 ลิเวอร์พูล เขตแอนฟีลด์ เมืองลิเวอร์พูล ไม่ใช่ทีมที่ยิ่งใหญ่อย่างที่คาดไว้ เพราะทีมยังต้องขึ้นๆ ลงๆ อยู่เป็นประจำระหว่างดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2
จนในปีค.ศ. 1954 ลิเวอร์พูลต้องลงไปเล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 นานกว่าปกติ ลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกกี่สมัย และก็ยังไม่มีผู้จัดการคนไหนสามารถพาทีมกลับขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ได้สักที จนเมื่อชายที่ชื่อว่า บิลล์ แชงค์ลี่ย์ เข้ามาคุมทีมได้เพียง 2 ฤดูกาล
เขาก็พาทีมขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 1 ในฐานะแชมป์ของดิวิชั่น 2 ได้สำเร็จในปีค.ศ. 1962 ซึ่งแชงค์ลี่ย์มีปรัชญาการคุมทีมอย่างง่ายๆ คือ ฟุตบอลแบบพื้นๆ แต่เน้นการส่ง และรับบอล อย่างแม่นยำ เล่นกันเป็นทีมมากกว่า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทีมลิเวอร์พูลมาจวบจนปัจจุบัน
การคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพครั้งแรก การเป็นแชมป์ยุโรปครั้งแรกของสโมสรลิเวอร์พูล
ซึ่งหลังจาก ประเทศอังกฤษ สามารถคว้าแชมป์โลก มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรก บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งในปี 1973 หลังจากพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพได้ในปี 1972 โดยมีบ๊อบ เพสลี่ย์ มีขวาของเขามารับช่วงต่อแทน
และบ๊อบใช้เวลาเพียง 4 ปี ในการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพเป็นครั้งแรกได้สำเร็จ และในปีต่อมาเขาก็พาลิเวอร์พูลประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้งเมื่อพาทีมคว้าดับ เบิ้ลแชมป์ จากดิวิชั่น 1 และยูโรเปี้ยน คัพ มาครอง
อีกทั้งยังคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพมาได้อีก 2 ครั้งในปี 1981 และ 1984 ก่อนที่บ็อบ เพสลีย์จะลาออกจากตำแหน่ง โจ เฟแกน คือผู้จัดการทีมต่อจากบ็อบ เพสลี่ย์ ซึ่งในการคุมทีมของเขาได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น
มีผู้เสียชีวิต 39 คนจากการที่ทีมลิเวอร์พูลแพ้ทีมยูเวนตุส 1-0 จากลูกจุดโทษ ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ รวมถ้วยลิเวอร์พูลทั้งหมด ที่สนามเฮย์เซล สเตเดี้ยม ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
ซึ่งทำให้เฟแกนตัดสินใจลาออกจากการคุมทีม ทำให้เคนนี่ ดัลกลิช ผู้เล่นที่ก้าวมาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของสโมสร และเขาก็พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ตั้งแต่การคุมทีมปีแรก