โศกนาฏกรรมมิวนิก การเสียชีวิตของนักเตะแมนยู บนเครื่องบินที่มิวนิก

โศกนาฏกรรมมิวนิก การเสียชีวิตของนักเตะแมนยู กับการสูญเสียนักเตะ จากอุบัติเหตุเครื่องบิน

โศกนาฏกรรมมิวนิก การเสียชีวิตของนักเตะแมนยู เรียกได้ว่าเป็นเหตุการ์ณสำคัญสำหรับ นักเตะสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง และเป็นเหตุการณ์สำคัญของสโมสร

ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เป็นเหตุการณ์น่าเศร้า ที่ต้องสูญเสียหลายคนจากเหตุการ์ณครั้งนั้น โศกนาฏกรรมมิวนิค หนัง ไม่ใช่แค่เหล่านักเตะเท่านั้น แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ และนักข่าวตากล้อง แฟนบอล และผู้โดยสารอีก

ที่ต้องสูญเสียชีวิต บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตที่ต้องเสียคนสำคัญไป เรียกว่าเป็นเหตุการณ์น่าเศร้า ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ หน้าเศร้าอย่างแท้จริง และไม่มีใครอยากให้เกิด

โดยในการเกิดเหตุนั้น สโมสรแมนยูนั้น ไปเค้าแข่งขันฟุตบอลยุโรป หรือชื่อในตอนนั้น ก็คือ ยูโรเปี้ยนส์คัพ โศกนาฏกรรมมิวนิค 1972 เป็นถ้วยยุโรปเก่าแก่ ก่อนที่จะ เปลี่ยนชื่อเป็นยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก

โดยเป็นรายการ การแข่งขันแชิงแชมป์ฟุตบอล ที่จะทำสโมสรอันดับ 1 ของแต่ล่ะสโมสร ในยุโรปมาแข่งขันกัน โดยผู้เล่น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกขานว่า บัสบีเบบส์ สามารถพาสโมสรแมนยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ 8ทีมได้

และได้ไปแข่งกับสโมสรอย่าง เรดสตาร์ เบลเกรด ที่ประเทศเซอร์เบีย ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และต้องกลับ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ คศ.1958 เพราะอีก2 วันถัดมาต้องมีแข่งขันในฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษต่อ

เพราะทางเอฟเอ หรือ องค์การฟุตบอลของประเทศอังกฤษ ไม่เลื่อนวันแข่งให้จึงทำให้ เหล่านักเตะและทีมงาน รวมถึงโค้ช ต้องนั่งเครื่องไปกลับ เพราะต้องรีบกลับเพื่อจะได้มาแข่งขันฟุตบอลได้ทัน            หนังออนไลน์ล่าสุด

ซึ่งในสมัยก่อนนั้น เครื่องบินสามารถ บรรจุคนได้ไม่เกิน 50 คนด้วยซ้ำ เป็นเครื่องลำเล็กไม่มีระบบนำทาง ไม่มีระบบความปลอดภัย และ เซฟตี้อะไรทั้งนั้น มีแค่ความชำนาญของกัปตันคนขับเครื่องบินเท่านั้น

ทำให้ในสมัยก่อนการเดินทาง โดยการ เดินทางด้วยเครื่องบินนั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เป็นอย่างมาก จึงไม่ค่อยมีคนใช้การโดยสาร เครื่องบินเท่าไหร่นัก เพราะอันตรายและเดินทางไม่ได้ไกลมาก เพราะหากโดยสารไกลๆ ต้องแวะเติมน้ำมันก่อน

เหมือนกับเหตุการ์ณ ที่เกิดขึ้นที่มิวนิกครั้งนี้ นักเตะทีมแมนยูนั้น ไปแข่งขันฟุตบอลที่ประเทศเซอร์เบีย แต่เพราะมีการแข่งขันฟุตบิลลีกสูงสุดของอังกฤษต่อจึงทำให้นักเตะไม่มีทางเลือกมากนัก ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินที่ไวกว่า

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับความยิ่งใหญ่ ด้วยการคุมทีมของ แมต์ต บัสบี

โดยแมตต์บัสบี้ คือผู้จัดการทีมที่พาความเปลี่ยน แปลงมาสู่ แมนยูไนเต็ด อย่างแท้จริง ด้วยการคัดเลือกตัวนักเตะ การซื้อขายนัดเตะ การฝึกซ้อม แท็กติก และการปูกฝัง ความเป็น แมนยูไนเต็ดให้กับนักเตะ

การไม่ชอบแมนเชสเตอร์ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ให้เกียจความพ่ายแพ้ จึงทำให้นักเตะสโมสรเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอล จะมีความกระหายในชัยชนะ และความเด็ดของเกมการแข่งขันฟุตบอล ในคู่ของแมนยูไนเต็ดไม่ว่าจะเจอทีมอะไร

โดย แมตต์ บัสบี สามารถพาแมนยูไนเต็ดคว้าอันดับ 1 ในลีกสูงสุดของลีกอังกฤษ ในเวลานั้น ได้ในปี คศ 1852 ดันแคน เอ็ดเวิร์ด ด้วยอายุโดยเฉลี่ยประมาน 22 ปีได้ โดยสื่อได้ขนานนามทีมชุดนี้ว่า บัสบีเบปส์

โดยแมนยูชุด บัสบีเบปส์นี้ คือเหล่านักเตะที่ขึ้นเครื่องเพื่อไปเตะฟุตบอลและเกิดเหตุที่มิวนิก ซึ่งในนักเตะชุด บัสบีเบปส์ ก็สามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนได้ครั้งแรก ของสโมสรในประเทศอังกฤษอีกด้วย

โศกนาฏกรรมมิวนิก หลังจากการแวะเติมน้ำมันที่มิวนิก ประเทศเยอรมันนี

เหล่านักเตะแมนยู และ รวมถึงโค้ชทีมงาน และผู้โดยสารคนอื่นๆ รวมแล้วกว่า 44 ชีวิต ที่อยู่ในเครื่องบิน Munich air disaster 1958 โดยสารจาก เซอร์เบีย ไป แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

ที่ต้องจอดแวะเติมน้ำมันที่ มิวนิกประเทศเยอรมันนี มีการรายงานว่า วันที่ 6 เดือน กุมภาพันธ์นั้น เป็นช่วงหน้าหนาว และ ตอนนั้นเป็นช่วงที่มีหิมะ ตกหนักมาก กว่าที่เครื่องบินจะลงจอดที่มิวนิกได้นั้น

ต้องขับวนเพื่อหารันเวย์นานนับชั่วโมง เพราะหิมะที่ตกหนัก และเมื่อมีการแวะเติมน้ำมันเสร็จเรียบร้อย ผู้โดยสารทุกคนก็พร้อมขึ้นบิน รวมทั้งเหล่านักเตะด้วย แต่เมื่อถึงเวลาเครื่องบินขึ้นจริงๆ กับมีเหตุขัดข้อง

เพราะหิมะ ที่ตกหนัก รวมทั้งเครื่องบินที่ขัดข้องอีกด้วย ทำให้เหล่าผู้โดยสาร รวมทั้งนักเตะต้องออกมาข้างนอกก่อน 1 รอบ และเมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว ขึ้นไปเหมือนเดิมก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นเหมือนเดิม

จากคำสัมภาษณ์ของ เซอร์ บ๊อบบี้ ชารล์ตัน แต่รอบนี้นักเตะบ้างคนได้ ย้ายที่นั่ง ดัน แคน เอ็ด เวิร์ด Pantip ไปนั่งที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งได้มีการชักชวน ทางเซอร์บ๊อบบี้ ชารล์ตันไปนั่งที่ท้ายเครื่องด้วย

ซึ่งตอนเหตุการณ์นั้น เซอร์บ๊อบบี้ ชารล์ตันยังไม่ได้รับยศอัศวิน จึงถูกเรียกว่า บ๊อบบี้ ชารล์ตัน แต่ทางเซอร์บ๊อบบี้ ชารล์ตัน กำลังลุกเพื่อย้ายไปนั่งที่นั่งข้างหลัง แต่ถูกแอร์โฮสเตร์ บอกให้คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ เพราะเครื่องกำลังจะขึ้น

ซึ่งเมื่อถึงเวลาออกเครื่องจริงๆ เครื่องบินกับเกิดอาการสั่นเป็นอย่างมาก จนเกิดแรงกระแทก จากการพุ่งชน รันเวย์ และทางตัวของเซอร์ บ๊อบบี้ ชารล์ตัน ออกมานอกตัวเครื่องพร้อมกับเบาะนั่ง โดยที่คนข้างๆ เสียชีวิต

และได้เกิดเพลิงลุกไหม้ ที่ตัวเครื่องบิน เครื่องบินขาดออกเป็น 2 ท่อน ผู้จัดการทีม อย่าง แมตต์บัสบี รอดชีวิตจากเครื่องบินตก ด้วยการนั่งอยู่ที่ส่วนหัวของเครื่องบิน ซึ่งเหตุการณ์นั้น ผู้เล่นแมนยูไนเต็ด เสียชีวิตทั้งหมด 8 คน ทั้งลำ เสียชีวิต 23 คน

คือเสียชีวิตประมาน ครึ่งนึง ของบรรดาผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบินในวันนั้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ ที่ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนผู้เล่นที่ย้ายไปนั่งท้ายลำไม่รอด

เพราะส่วนเครื่องบินส่วนท้ายลำ เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จึงทำให้นักเตะส่วนใหญ่ที่นั่งท้ายขบวนไม่รอด ซึ่งมันส่งผลต่อสโมสรอย่างแท้จริง โดยสโมสรแมนยูเกือบถูกสั่งยุบสโมสร

จากจุดตกต่ำที่นักเตะ ในสโมสรเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก และ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน กลับการกลับมาเตะฟถตบอลอีกครั้ง

เพราะเกิดเรื่องหน้าเศร้า และไม่มีนักเตะที่จะลงสนามช่วยสโมสรได้ แต่ทางผู้ช่วยโค้ช ประวัติ แมนยู ในตอนนั้นอย่าง จิมมี่ เมอร์ฟี่ ไม่ยอมแพ้ เฟ้นหาแข้งดาวรุ่งของทีมตัวเอง นักเตะที่มีอายุที่ไม่มีสโมสร

แม้แต่โทรขอยืมตัวเหล่านักเตะ จากสโมสรฟุตบอลอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นนักเตะในสโมสรไว้ เช่นนักเตะดาวรุ่งที่เก่งกาจ แต่ยังไม่ส่งตัวขึ้นชุดใหญ่ จิ่มมี่ เมอร์ฟี่ ก็ได้โทรไปหาสโมสรต่างๆ เพื่อขอยืมตัวนักเตะ    @vv123

ไม่ต้องเล่นเก่งก็ได้ แต่ขอแค่เล่นฟุตบอลเป็น และรู้กติกาก็พอ เพื่อคอยประคองสโมสรเอาไว้ เพื่อรอผู้จัดการทีมอย่าง แมตต์ บัสบี กลับมาคุมทีมและพัฒนาสโมสร แมนยูไนเต็ด ให้พัฒนากลับไปสู่ความยิ่งใหญ่ และไปได้ไกลกว่าเดิม

เพราะ จิ่มมี่ เมอร์ฟี่ มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่า แมตต์ บัสบี จะพาแมนยูไนเต็ดกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ได้ ซึ่งจิ่มมี่ เมอร์ฟี่ สามารถคุมทีมเข้าสู่ รอบชิงเอฟเอคัพได้จริงๆ แต่ไม่สามารถ ชนะการแข่งขันได้

หลังจากการแข่งขันเอฟเอคัพ รอบชิง ที่ถึงแม้สโมสรฟุตบอล แมนยูไนเต็ดจะพ่ายแพ้ แต่ก็มีข่าวดีที่นักเตะอย่าง บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน กลับมาลงฝึกซ้อมแล้วช่วยสโมสรในการกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

และเพราะการกลับมาครั้งนี้ทำให้ บ๊อบบี้ ชาร์ลตันเป็น เซอร์บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน และเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการลงสนามไปมากกว่า 758 นัด ยิงไป 249 ประตูให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และมีรูปปั้นอยู่หน้าสนาม โอลด์แทรฟฟอร์ด